ชี้แก้ รธน.เพื่อประโยชน์ประชาชนไม่ใช่ผลเลือกตั้ง…
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. นายตรวจตรา เชาวพัฒนวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ รวมทั้งรองหัวหน้าพรรคก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบ แบบประเทศเยอรมนี ว่า ช่วงนี้สังคมไทยบางครั้งก็อาจจะหลงผิดไปว่า การเลือกตั้งแบบสองใบ มีแต่ว่าแบบปี 2540 แค่นั้น แต่ว่าจริงๆยังมีระบบที่ดีกว่าทั้งยัง 2 แบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบรัฐธรรมนูญ 60 หรือ 40 ซึ่งเป็นแบบบัตรสองใบรวมทั้งสะท้อนความมุ่งหมายของประชาชนก้าวหน้าที่สุด ระบบนี้เรียกว่า ระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม Mixed Member Proportional MMP” เล่าแบบง่ายๆคือ “เลือกคนที่ใช่ เลือกพรรคที่ชอบ ได้จำนวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในสัดส่วนที่ถูก” โดยการเลือกตั้งแบบระบบเยอรมัน คุณมีบัตร 2 ใบ ใบแรกเลือก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต อีกใบเลือกพรรค โดยใช้ทั่วประเทศเป็นเขต คะเเนนใบที่เลือกพรรค จะเอามาคำนวนเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมี แทนที่จะเอาคะแนนเลือก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตทุกเขตมารวมแล้วมาคำนวณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พึงมี แบบ รธน. 60 แล้วเอาคะเเนนพึงมี มาเป็นตัวระบุว่า แต่ละพรรคต้องมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากแค่ไหน หากได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตมากกว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พึงมี คุณก็ได้ไปเพียงแค่นั้น แต่ว่าหากได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต น้อยกว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พึงมี ก็ไปบวก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในบัญชีรายชื่อ ด้วยแนวทางอย่างงี้ที่เยอรมันเขาใช้ มันเลยจำเป็นจะต้องว่าต้องมี Over Hang Seat คือมีจำนวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มากกว่า 500 คน เพื่อให้สัดส่วน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในที่ประชุมของแต่ละพรรค สะท้อนต่อ โหวตเตอร์ หรือ ความจำเป็นของประชาชน จริงๆ
นายตรวจตรา พูดว่า ระบบเลือกตั้งแบบ MMP หรือแบบเยอรมัน เป็นระบบเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ที่ไม่เหมือนกับแบบบัตร 2 ใบ แบบ รธน. 40 ที่นับคะแนนเสียงแบบคู่ขนาน ที่ทำให้พรรคการเมืองใหญ่ถึงที่กะไว้นั่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เกินกว่าคะแนนเสียงที่ได้รับ ซึ่งไม่สะท้อนความมุ่งหมายของประชาชนผู้ที่ลงคะแนนได้จริงๆระบบเลือกตั้งแบบ MMP ที่นำคะแนนนับด้วยกัน จะเข้ามาแก้จุดอ่อนของบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแบบเดิม ที่จะทำให้สัดส่วนที่นั่งในที่ประชุมกับสัดส่วนคะแนนที่พรรคการเมืองได้รับมีความใกล้เคียงกัน อันที่จริงแล้วระบบเลือกตั้งแบบรัฐธรรมนูญ 60 ก็เอาระบบเลือกตั้งแบบ MMP มาดัดแปลงให้อยู่บัตรใบเดียว ที่ไม่สามารถสะท้อนความมุ่งหมายของประชาชนได้ว่าเลือกผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต หรือเลือกพรรค
“มันมิได้อยู่ว่าพรรคก้าวหน้าจะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งแบบไหน การปรับแต่งรัฐธรรมนูญ จะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่เพื่อผลของการเลือกตั้ง หรือเพื่อประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง การมีระบบเลือกตั้งที่สะท้อนเสียงโหวตเตอร์ก้าวหน้าที่สุด จะต้องเป็นทางเลือกที่ดีกว่า” นายตรวจตรากล่าว…
