เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง กับอุบัติเหตุช็อกโลก! ที่พรากชีวิตของ “เจ้าสัว คิงเพาเวอร์” วิชัย ศรีวัฒนประภา ไปอย่างไม่มีวันกลับ
คุณวิชัย สร้างความดีไว้ล้นหลามอย่างยิ่งให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “แวดวงกีฬา” ที่เจ้าตัวไปสร้างชื่อระดับนานาชาติ ด้วยการเป็นเจ้าของสโมสรบอล เลสเตอร์ ซิตี้ บนเกาะอังกฤษ
เขาใช้เวลาเพียงแค่ 6 ปีเท่านั้น สร้างสิ่งที่ (ยิ่งกว่า) เกินจริง สำหรับการพาทีม “สุนัขจิ้งจอกประเทศไทย” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ได้อย่างน่าแปลกที่สุด
ผมมิได้รู้จักเจ้าสัววิชัยเป็นการส่วนตัว แม้กระนั้นรู้สึกชื่นชอบท่านที่เป็น “คนมั่งคั่งใหญ่ใจดี” ซึ่งรู้จักตอบแทนคุณแผ่นดินรกรากในทุกรูปแบบ เท่าที่ความสามารถของตนเองพึงจะทำได้
ในระหว่างที่คุณวิชัยไปซื้อทีมเลสเตอร์ใหม่ๆบอกตามตรงว่าผมรู้สึกเฉยๆมิได้ยินดียินร้ายอะไรด้วย เนื่องจากว่าดูเพียงว่าเป็น “ของเด็กเล่นคนมั่งคั่ง” ที่มิได้มีประโยชน์ กับประเทศชาติสักเท่าใดนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแวดวง “บอลไทย” ที่ยังมองไม่ออกว่า จะได้คุณูผลดีที่ที่ไหน
จนถึงทีม “สุนัขจิ้งจอกประเทศไทย” ผงาดเป็นแชมป์ลีกเมืองผู้ดี จนกระทั่งทำให้ผู้คนทั้งโลกจำเป็นต้องหันมาโฟกัสที่ “คนประเทศไทย” จากที่ฝรั่งตาน้ำข้าวเคยเหยียดหยามเรา เปลี่ยนมาเป็นค้อมทำความเคารพด้วยความเต็มใจ “เห็นด้วย”
ซึ่งต่อมา คุณวิชัยก็เริ่มผุดแผนการ “ฟ็อกซ์ ฮันท์” เพื่อคัดเลือกเด็กไทย ให้ไปฝึกหัดวิทยายุทธ์ลูกหนังระยะยาวผ่านปีที่อังกฤษ กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว นั่นแหละ ผมถึงได้พอเข้าใจถึงกลยุทธ์อันสุขุม ของท่านประธานวิชัย ที่ต้องการสร้างฐานให้นักฟุตบอลไทย ได้มีช่องทางไปค้าหน้าแข้งในยุโรป
จำเป็นต้องพูดว่า ในอังกฤษอาจจะยังเป็นเรื่อง ที่ยากเย็นสำหรับนักฟุตบอลชาติเรา โดยเหตุนี้เจ้าสัวคิงเพาเวอร์ จึงเริ่มหาฐานใหม่ที่ลีกเบลเยียม ด้วยการเข้าเข้ายึดครองทีมโอเอช ลูเวิน
รวมทั้งเป็น “เจ้าตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยอดนายทวาร “มือ 1” ทีมชาติไทย ที่ได้รับโอกาสให้ไปค้าถุงมือเป็นรายแรก
ซึ่งต่อไปก็มั่นใจว่า จะมีหน้าแข้งไทยรายอื่นๆได้ไปวาดลวดลายในโลกกว้าง ผ่านช่องทางนี้กันอีก เนื่องจากว่าตัวท่านเอง ต้องการจะมองเห็นนักฟุตบอลไทย ได้ไปค้าหน้าแข้งที่ยุโรปกันจำนวนมาก
ชนิดเดียวกันกับที่นักฟุตบอลประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ได้ทำให้มองกันมาแล้ว
โดยปลายทางแห่งฝัน ของบิ๊กบอสอาณาจักรคิง เพาเวอร์ ก็อาจเหมือนคนประเทศไทยทั้งประเทศ ป้อมใจว่ายิ่งมีหน้าแข้งไทย ไปเล่นอยู่ในลีกที่เจริญก้าวหน้าแล้วเยอะแค่ไหน
โอกาสที่ “ทีมชาติไทยจะไปบอลโลก” ก็ย่อมมีมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น
น่าเสียดายอย่างยิ่งนะครับ คุณวิชัยลงทุนเพาะกล้ากับบอลไทยไว้แล้ว แม้กระนั้นไม่มีโอกาสได้มองเห็นดอกผลของมัน
ต่อไปนี้ ก็อาจเป็นหน้าที่ของทายาทอย่าง “คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ที่จำเป็นต้องสืบทอดจิตวิญญาณ แล้วก็เจตนารมณ์ของผู้เป็นพ่อให้สมบูรณ์แบบต่อไป…
R.I.P. ด้วยหัวใจ…นะครับเจ้าสัว.
ผมเขียนคอลัมน์ “ตะลุยบอลโลก” ชิ้นนี้ พิมพ์ลงในหน้าข่าวเกรียวกราวกีฬา หนังสือพิมพ์ไทยเมือง เมื่อวันที่ 31 เดือนตุลาคม 2561 หรือเมื่อเกือบจะ 3 ปีที่แล้ว
เพื่อร่วมไว้อาลัย ต่อการจากไปของเจ้าสัว วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรอันเป็นหวานใจของสาวก “สุนัขจิ้งจอกประเทศไทย” เลสเตอร์ ซิตี้
แล้วก็เป็นอย่างยิ่งใจให้ “คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” คนที่จะสืบทอดจิตวิญญาณ ของอาณาจักรคิง เพาเวอร์ ที่พ่อได้สร้างไว้ให้คงอยู่ชั่วนิรันดร์
ภาพของ “คุณต๊อบ” ที่ยกถ้วยแชมป์เอฟเอคัพ ในสนามเวมบลีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยประกายตาแวววาว
จ้องไปบนอัฒจันทร์ ที่มีรูปขนาดยักษ์ของป๊ะป๋าวิชัยจ้องอยู่
เป็นโมเมนต์ประทับใจ.. ที่ไม่ต้องการที่จะอยากคำพรรณนา
ใดๆก็ตามกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ของทีมบอลอาชีพในอังกฤษ ที่มีเจ้าของเป็นคนประเทศไทย
แม้กระนั้นสามารถทำให้ฝรั่งมังค่า จำเป็นต้องยอมยกหัวใจให้โดยอาการนิ่ง
ถึงในเวลานี้ขอเปลี่ยนจาก R.I.P. เป็น Congratulations !!
ที่มอบให้ทายาทชายหนุ่มเชื้อสาย “ศรีวัฒนประภา”
ด้วยจิตทำความเคารพ..อย่างแท้จริง.