น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2559 โพสต์ทวิตเตอร์ระบุ “อยากเอาสลิ่มมาเผาในกองเพลิงมาก รก” ด้าน “โบว์-ณัฏฐา”
วันนี้ (6 กรกฎาคม) ทวิตเตอร์ @Namtanlita24 ของ น้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2559 โพสต์เนื้อความสืบเนื่องมาจากไฟเผาที่ย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ บอกว่า “ต้องการเอาสลิ่มมาเผาในกองเพลิงมาก เกลื่อนกลาด” “เดี๋ยวก็จะมาบอกว่าถึงกับเผากับฆ่ากันเลยหรออีกคอยดูนะ” “เผาก็กลัวอากาศเป็นพิษอีก ตายยาก” เนื้อความดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วถูกนำไปรีทวีตเยอะแยะ
ถัดมา ทวิตเตอร์ @NuttaaBow ของ โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มของผู้คนต้องการเลือกตั้ง โพสต์เนื้อความตอบกลับ บอกว่า “ความประพฤติเลียนแบบควรทำในสิ่งที่ประดิษฐ์ ความหยาบคายความร้ายแรง เมื่อไปเลียนแบบกันจะพากันยกฐานะไปเรื่อยอย่างที่มองเห็น มาถึงจุดของ hate speech สุดท้าย วันนี้คุณซ้ำเติมสถานการณ์สังคมที่กำลังเคร่งเคลียดด้วยการเติมเชื้อไฟ สร้างความชิงชังในหมู่ประชาชนร่วมกันเอง วันพรุ่งขอให้ได้สติจ้ะ”
ขณะที่เฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.อานนท์ ศักดาวรพิชญ์ อาจารย์ประจำภาควิชาสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์เนื้อความบอกว่า “น้องน้ำตาลคนสวยที่แสนสวยครับ
ผมไม่เคยมีความรู้สึกว่าจะกวาดล้างสามกีบที่ทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าตารางครับ ไม่ว่าจะมาตรา 112 หรือ มาตรา 116 เอาเข้าจริงผมไปเป็นพยานผู้ชำนาญตามหน้าที่ แล้วก็พิจารณาส่วนประกอบข้อผิดพลาดตามเกณฑ์แล้วก็ตามความรู้ที่ผมมี มิได้ผูกใจเจ็บ มิได้คิดจะกลั่นแกล้งผู้ใดกันแน่ ผมทำเพื่อรักษาหลักนิติรัฐแล้วก็หลักนิติธรรม
ที่สำคัญ ผมไม่เคยคิดที่จะเผาสามกีบให้ตายทั้งเป็นหรือจะไปฆ่าสามกีบเลยจ๊าครับ เพราะว่ามันบาป แล้วก็เป็นการฆ่ามนุษย์ ตบยุงผมยังกลัวบาปเลยครับ ผมบากบั่นถือศีลห้าให้ได้
วันนี้เกิดเหตุไฟเผาที่โรงงานโฟมแถวกิ่งแก้ว มีน้องกู้ภัยอายุเพียง 19 ปี ชื่อน้องเพียงพอส ซึ่งเป็นจิตสมัครใจช่วยเหลือแล้วก็มีจิตใจที่อาจหาญเสียชีวิตสำหรับเพื่อการปฏิบัติภารกิจ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนได้
แม้กระนั้นผมได้อ่านเนื้อความของสาวงามที่ไปไม่ถึงจักรวาลบางบุคคลที่ชื่อหวานล้นหลาม กล่าวคำว่า ต้องการเอาสลิ่มมาเผาในกองเพลิงมาก เกลื่อนกลาด
ผมตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าบริเวณใบหน้าที่สวยสดงดงาม จะมีจิตใจที่ต่ำทรามแบบนี้ มันน่าละอายอย่างยิ่ง ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ทำไมถึงลืมคำว่าฆ่ามนุษย์ไปได้
เพียงพออ่านเนื้อความสาวงามสามกีบแล้วก็ได้แม้กระนั้นปลงอนิจจัง นึกรำพึงรำพันในใจว่า
เอาน่ะ จะกวาดล้างสามกีบที่ทำผิดเข้าตารางก็ทำไปเถิดครับ ผมยอมรับได้แล้วก็เกื้อหนุน แม้กระนั้นผมคงจะไม่สามารถที่จะเกื้อหนุนความนึกคิดที่ว่า ต้องการเอาสามกีบมาเผาในกองเพลิงมาก เพราะว่าสามกีบนั้นทั้งยังเกลื่อนกลาดแล้วก็ชั่วช้าสารเลว ความนึกคิดแบบนี้ไม่ถูกศีล ขาดเมตตา แล้วก็ทารุณโหดร้ายเยอะเกินไปจริงๆครับ
ไม่ไหวจริงๆครับ ไม่สามารถที่จะยอมรับได้จริงๆ”