ย้อนดูหนังไทยสุดฟิน และสุดฮา น้ำตาไหล แถมตื่นเต้นระทึกขวัญ

ท่านผู้ชมทั้งหลาย ที่เข้ามารับดู กันในวันนี้นั่นเอง รวมทั้งเหมือนเคย ที่ผมจะนำ หนังดีๆมาฝาก ให้ได้รับดูกัน และก็ถ้าเกิดท่าน เป็นคนชอบดูหนัง ที่ถูกใจดูหนัง ไม่ว่าจะเป็นหนัง ในแนวโรแมนติก แนวดราม่า แนวไซไฟ แนวบู๊แอคชั่น และก็อื่นๆอีก มากไม่น้อยเลยทีเดียวนั่น ผมก็จะหา หนังมาให้แด่คุณ ได้รับดูกัน โดยตลอดเลย ตอนแรกเลย ต้องขอบอก ก่อนเลยว่า ส่วนตัวผมเองนั่น

 

3. Before valentine

“มันเป็นหนังรักของเมืองไทยเรื่องแรกที่เล่าเรื่องราวทุกๆสิ่งทุกๆอย่างด้านในวันเดียว แล้วก็ใช้เรื่องราวความรักของคนหลายๆคู่ ให้มาอยู่ในหนังเรื่องเดียวกัน โดยผู้กำกับฯ 3 คน คนถ่ายภาพ 3 คน เป็นทีมงานเดียวกัน ดำเนินงานคนละสไตล์”
ใจความข้างบนเป็นความมองเห็นของ พรชัย หงส์รัตนาภรณ์ หนึ่งในสามผู้กำกับฯ ใน “Before valentine ก่อนรัก…หมุนรอบตัวเรา” ซึ่งนอกจากจะนำเสนอให้เห็นภาพรวมของชิ้นงานแล้ว ยังพรีเซนเทชั่นจุดแข็งว่าเป็น “เรื่องแรก” ที่มีลักษณะดังที่กล่าวมาข้างต้น
เมื่อมองดูในเชิงแนวความคิด ผมมีความคิดว่าหนังเรื่องนี้มีแนวความคิดหลักดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจบลงช่วงท้ายที่ทำให้เห็นภาพรวมของความเชื่อมโยงระหว่างคู่ควงแต่ละคู่ และก็คงจะนับว่าเป็นตอนจบที่ทำให้คนไม่ใช่น้อยกำเนิดอาการ “เซอร์ไพรส์” ได้ไม่มากมายก็น้อย
ในส่วนของการนำเสนอ ตอนที่เล่าเรื่องระหว่าง สุธีกับติดชนก มีวิธีการติดต่อสื่อสารที่น่าดึงดูดด้วยการใช้ภาพในความคิดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่อง อย่างไรก็ตาม วิธีดังที่กล่าวมาข้างต้นแทบเข้าขั้นมากจนเกินไป
แต่ถ้าถามคำถามว่าตอนใดหรือคู่ใดบันเทิงใจที่สุด ผมมีความคิดว่าเป็นคู่ “เจ๊” กับ “เฮีย” ส่วนหนึ่งบางทีอาจเนื่องจากว่ามีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวเนื่องอย่างเห็นได้ชัด และก็อีกส่วนน่าจะเป็นเนื่องจากว่าความสามารถและก็คุณสมบัติเฉพาะตัวของตัวละคร (ตอนนี้ ถ้าเผยความปรารถนาของผู้ชายวัยกลางคนให้ลึกกว่านี้จะดีมาก)
โดยรวมแล้ว เป็นงานที่แสดงถึงการมีแนวความคิดหลักโดดเด่น และก็เป็นงานหรรษาที่ดูแล้วเพลิดเพลินเจริญใจดี

 

2. Cool Gel Attacks

บอกได้เลยว่า “กระดึ๊บ” เป็นภาพยนตร์ตลกของ GTH เรื่องแรกเลยที่ได้มอง เนื่องจากว่าธรรมดาแล้ว จะได้มองแต่หนังรัก ที่ประสมประสานทั้งความโรแมนติกและก็คอมเมดี้เข้าด้วยกัน มีไดอะล็อกงามๆมีประเด็นให้ฉุกคิด และก็ดึงอารมณ์ร่วมของผู้ชมออกมาได้ดี
นี่เป็น คราวแรกที่ได้พบประสบการณ์ของหนัง GTH ที่มุ่งปฏิบัติภารกิจด้านอารมณ์ขันเป็นหลัก ประสมประสานกับความเป็นหนังตัวประหลาด
เรื่องราวที่ จาตุรงค์ มกจ๊ก หรือ จตุรงค์ พลบูรณ์ หยิบมาเล่าในหนังเรื่องนี้ เพิ่มมาจากสถานะการณ์ข่าวสารดังสะพัดในไทยเมื่อหลายปีก่อน เมื่อคนประเทศไทยบางบุคคลพบสิ่งแปลกลักษณะหยุ่นๆแบบเจลวุ้นใส ตกมาจากฟากฟ้าไม่มีที่มา พากันมั่นใจว่าเป็นสิ่งแปลกและก็กราบไหว้ขอหวยกันต่างๆนานา ก่อนจะถูกเผยถัดมา ว่ามันเป็นเพียงแต่เจลลดไข้… เท่านั้น
ฟรอยด์ – ณัฏฐพงศ์พันธุ์ ชาติพงศ์พันธุ์ เล่นบทผู้แสดงนำชาย “สมหมาย” ปะทะประชันกับ พีค – เจริญศยา เครือสุวรรณศิริ ที่เล่นบท “หมูแดง” ฝ่ายแรกเป็นลูกชายของบ้านกิจการค้าน้ำแข็งโคตรสะอาด กับอีกคน เป็นลูกสาวของบ้านกิจการค้าซาลาเปา สองบ้านที่มีพ่อบ้านผู้ไม่ถูกชะตากัน แต่ลูกชายลูกสาวรักกัน มีศัตรูผู้เดียวกัน ในวันที่ความสับสนยังดำเนินอยู่ จู่ๆเจลลดไข้ก็กลายเป็นกระแส
ความเจลไม่ทันหาย ความเอเลี่ยนก็เข้ามาแทรก เจลลดไข้ที่หน้าตาราวกับตัวประหลาดนอกโลก และก็ตัวประหลาดนอกโลกที่หน้าตาราวกับเจลลดไข้ ทำให้สองบ้านที่ไม่ลงรอย กลับต้องมายุ่งเหยิงด้วยกัน เรื่องราวที่ดำเนินผ่านมุขฮาๆผู้แสดงนำชายบ้ากาม นางเอกปัญญาอ่อน เรื่องราวที่ยังปกปิดไม่สมควรบอกให้รู้อีกเพียบเลย
ในความรู้สึก หนังปฏิบัติภารกิจได้ดีในด้านของความเป็นภาพยนตร์ตลก แถมพวกเรายังได้มีความเห็นว่าพีคก็แสดงบทปัญญาอ่อนออกมาฮาใช้ได้ สำหรับคนที่เครียดๆและก็ต้องการมาคลายความเครียดในโรงภาพยนต์ จัดว่ากระดึ๊บปฏิบัติภารกิจนั้นให้คุณได้ แต่ถ้ามุ่งหวังให้มีแง่คิดลึกซึ้ง หนังมีบ้างแต่ไม่เท่าไรนัก

ในตอนที่ในส่วนของ CG เจ้าตัว “กระดึ๊บ” ที่ดูแลโดยกลุ่มกันตนา จัดว่าทำออกมาได้ดีพอตัว การประกอบภาพทำเป็นออกจะโอเค อาจจะมีบ้างบางช็อตที่ยังไม่เนียนพอ แต่ในด้านของการให้แสงเงากับเจ้าตัวแปลกนี้ ก็จัดว่าน่าพึงพอใจ

 

1. 13 Beloved

ท่านผู้ชมทั้งหลาย ที่เข้ามารับดู กันในวันนี้นั่นเอง รวมทั้งเหมือนเคย ที่ผมจะนำ หนังดีๆมาฝาก ให้ได้รับดูกัน และก็ถ้าเกิดท่าน เป็นคนชอบดูหนัง ที่ถูกใจดูหนัง ไม่ว่าจะเป็นหนัง ในแนวโรแมนติก แนวดราม่า แนวไซไฟ แนวบู๊แอคชั่น และก็อื่นๆอีก มากไม่น้อยเลยทีเดียวนั่น ผมก็จะหา หนังมาให้แด่คุณ ได้รับดูกัน โดยตลอดเลย ตอนแรกเลย ต้องขอบอก ก่อนเลยว่า ส่วนตัวผมเองนั่น
เป็นคนที่ถูกใจ ดูหนังเป็น อย่างมากเลย ซึ่งในแต่ละวัน ก็จะหาหนังมอง ขั้นต่ำนั่น วันละเรื่อง แต่พอนานๆเข้า หนังใหม่ๆนั้น ก็มองจนกระทั่งหมดแล้ว ก็เลยหาหนัง ที่เป็นหนังเก่าๆมอง ก็เลยไปพบ อยู่เรื่องหนึ่ง ที่เป็นหนังไทย และก็เป็นแถวสยองขวัญ ซึ่งต้องขอบอก
ว่าผมเองนั้น เป็นคนที่ถูกใจ ดูหนังชนิดนี้ อยู่แล้วนั่นเอง และก็เป็นหนัง ที่เคยมองกัน ในอดีตสมัย และก็ในวันนี้ ก็เลยขอมาเสนอแนะ ให้แด่คุณที่ บางทีก็อาจจะยัง กำเนิดไม่ทัน หรือบางทีก็อาจจะ ยังไม่เคยมอง มาฝากให้แด่คุณ ได้รับดูกัน และก็หนังที่ผม จะนำมารีวิว ให้แด่คุณได้รับดู
กันในวันนี้ ก็คือเรื่อง”13 เกมสยดสยอง” นั่นเองครับผม ซึ่งถ้าเกิดท่าน เป็นคนภายในสมัย 90 แล้วละก็ คงผ่านหู ผ่านตากันมา บ้างแล้วกับหนัง เรื่องนี้นั้นเอง ซึ่งเป็นหนัง ที่ทำออกมา ได้อย่างสมจริง และก็ในแต่ละฉากนั้น ก็ทำออกมาได้ อย่าน่าขนลุก ซึ่งในสมัยนั้น
จัดว่ายังไม่มี เทคโนโลยี สำหรับการสร้างหนัง มากมายสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถ ทำออกมาได้ อย่างดีเยี่ยมเลย และก็ตัวดาราหนัง ก็เล่นได้ สมบทบาท ได้ดีจริงๆอีกด้วย ก็เลยทำให้ หนังเรื่องนี้ มีกระแสตอบรับ ที่ดีมากๆในสมัยนั้น และก็ผมก็จะ นำข้อมูลของหนัง
เรื่องนี้มาฝาก ท่านคนชอบดูหนังทั้งหลาย ได้รับรู้กัน หนังเรื่อง”13 เกมสยดสยอง” หรือที่มีชื่อ เป็นภาษาอังกฤษว่า “13 Beloved” ซึ่งหนังเรื่องนี้ เป็นหนังแนวตื่นเต้น ซึ่งได้มีผู้กำกับ อย่าง ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ซึ่งท่านคนไม่ใช่น้อย คงรู้จัก กับเขากันเป็น
อย่างดีกับผลงาน ที่ได้สร้างหนัง ออกมาให้แด่คุณ ได้รับดูกันเรื่อยซึ่งหนังเรื่องนี้ ได้ถูกดัดแปลง มาจากเรื่อง”13th Quiz Show” ซึ่งแต่ก่อนนั้น ได้ถูกทำมาเป็น ในหนังสือการ์ตูน มาก่อนนั้นเอง และก็ก่อนที่ จะสร้างหนังเรื่องนี้ ออกมานั่นได้
เคยทำหนังสั้น ออกมาก่อน อย่างเรื่อง11 (หรือ Earthcore)และก็12 Begin และก็เรื่อง14 Beyond และก็ได้สร้างหนัง เรื่องนี้ออกมาต่อกัน ซึ่งได้มีการ ฉายในประเทศ ในวันที่ 5 ต.ค. พ.ศ. 2549 ซึ่งใช้งบประมาณ สำหรับการสร้างหนัง 13 ล้านบาท
แต่เห็นผลกำไร จากคนชอบดูหนัง ทั่วราชอาณาจักรไปถึง 119 ล้านบาท และก็ดาราหนัง ของหนังเรื่องนี้ ก็จะมีกฤษดา สุโกศล หรือน้อยวงพูล ที่ไม่ว่าเขาแสดง เรื่องไหนก็แสดงได้ อย่างสมบทบาทมากมาย และก็เล่นบทเป็นภูเขาชิต ซึ่งหนังเรื่องนี้ ยังได้ออกฉาย ไปต่างประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นในประเทศสิงคโปร์ และก็ประเทศญี่ปุ่น ในตอนเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2550 และก็ได้ฉายใน Puchon International Fantastic Film Festival ที่ประเทศเกาหลี ซึ่งพูดได้ว่า เป็นหนังที่ดัง อีกหนึ่งเรื่อง ของหนังไทยอีกด้วย และก็หนังเรื่องนี้
ก็ได้รับรางวัลต่างๆอย่างใหญ่โต ยกตัวอย่างเช่น รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 16 และก็รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ครั้งที่ 28 รายปี พ.ศ. 2549 และก็ยังมีรางวัล หนังไทย สมาคมวิจารณ์หรรษา ครั้งที่ 15 และก็ยังมีได้รางวัล