27/03/2023
Breaking News

วู้ด-บาร์นส์คนละตุง! เบิร์นลี่ย์ไม่พลาดทุบวูล์ฟส์ หนีโซนตกชั้นจี้ปืนแต้มเดียว

เบิร์นลี่ย์ ทำสถิติไม่แพ้ทีมใดเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกันหลังเปิดบ้านไล่บดเอาชนะ วุล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 คริส วู้ด และแอชลี่ย์ บาร์นส์ ยิงคนละเม็ด ก่อนที่ “หมาป่า” จะได้ ฟาบิโอ ซิลวา ตีไข่แตกแต่ไล่ไม่ทัน ส่งให้เบิร์นลี่ย์หนีโซนตกชั้นได้สำเร็จ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วีกที่ 14 คืนวันจันทร์ที่ 21 ธ.ค. ก่อนหน้านี้ เป็นการเจอกันระหว่าง เบิร์นลี่ย์ อันดับ 18 ซึ่งแข่งขันน้อยกว่าหนึ่งเกม โดยเกมที่แล้วบุกไปเสมอกับ แอสตัน วิลล่า 0-0 รับการมาเยี่ยมของ วุล์ฟแฮมป์ตัน กลุ่มอันดับ 11 ผลงานล่า
สุดเพิ่งเปิดรังไล่บดเอาชนะ เชลซี 2-1

ฌอน ไดช์ นายใหญ่ของ เบิร์นลี่ย์ ยังยึดขุมกำลังเดิมเป็นส่วนมาก แนวรุกได้ แอชลี่ย์ บาร์นส์ กลับมายืนล่าตาข่ายคู่กับ คริส วู้ด ส่วน “หมาป่า” ของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ จัดสองแนวรุกสุดจี๊ดทั้ง ดาเนี่ยล โปเดนเซ่ และเปโดร เนโต้ โดยมี โอเว่นโอตาโซวี่ ดาวรุ่งคนอเมริกันวัย 19 ปี ลงเล่นพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก

เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 8 นาที วูล์ฟแฮมป์ตัน ได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกนอกกรอบกว่า 20 หลา ชูเอา มูตินโญ่ เขี่ยให้ เปโดร เนโต้ ซัดสุดแรงเกิดแต่ว่าบอลพุ่งไปติดกำแพงเจ้าถิ่น

นาที 15 เบิร์นลี่ย์ สบโอกาสลุ้นขึ้นนำ บอลด้านข้างจาก ดไวท์ แม็คนีล ครอสเข้ามาเสาแรกให้ คริส วู้ด เปลี่ยนแปลงตัวเองวอลเลย์แบบไม่ถนัด บอลน้ำหนักเบาก่อนหลุดกรอบออกข้างหลังแบบได้เสียว

ADVERTISEMENT

ช่องทางยิงเข้ากรอบหนแรกของเกมจำต้องคอยถึงนาทีที่ 23 เป็นจังหวะโต้กลับของ “หมาป่า” เปโดร เนโต้ ได้บอลจากแดนตนเองก่อนกระชากขึ้นมาแล้วสับไกยิง แต่ทว่าบอลพุ่งไปเข้ามือ นิค โพ๊พ

นาที 28 เจ้าบ้าน เบิร์นลี่ย์ ทิ้งนาทีทองขึ้นนำข้างหลัง บอลยาวจาก นิค โพ๊พ วางขึ้นหน้าให้ แอชลี่ย์ บาร์นส์ หลุดเข้าไปซัดคนเดียวๆแต่ว่าเจ้าตัวยิงไม่ดีพอเพียงบอลพุ่งไปติดขา รุย ปาตริสิโอ เซฟช่วยกองทัพหมาป่าไว้ได้

นาที 35 เป็นเจ้าบ้าน เบิร์นลี่ย์ ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คริส วู้ด รอจังหวะก่อนจ่ายให้ ชาร์ลี เทย์เลอร์ ที่เพิ่มขึ้นมาถึงเส้นข้างหลังตักมาเสาไกลให้ แอชลี่ย์ บาร์นส์ เทกตัวกระแทกบอลลงพื้นเข้าไป

อีก 5 นาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นฟรีคิกนอกกรอบ จอช บราวน์ฮิลล์ วิ่งมาปั่นข้ามกำแพงไปสุดแท้แต่บอลโค้งหลุดเสาออกไปแบบได้เสียว

ADVERTISEMENT

จบครึ่งแรก เบิร์นลี่ย์ ขึ้นนำ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0

กลับมาเล่นต่อในช่วงหลัง นาที 50 เจ้าถิ่นเกือบได้ลูกที่สองนำห่าง ข้างหลังความบกพร่องของ รูเบน เนเวส ที่เสียการครอบครองบอลโดน จอช บราวน์ฮิลล์ แย่งบอลก่อนปั่นนอกกรอบบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

แต่ว่าอีกนาทีถัดมา เบิร์นลี่ย์ ได้ประตูนำห่าง 2-0 จนได้บอลฟรีคิกจากกึ่งกลางสนามวางมาให้ เบน มี กระแทกตั้งไปเสาไกล แอชลี่ย์ บาร์นส์ ขึ้นแย่งบอลก่อนบอลตกกึ่งกลางประตูและเป็น คริส วู้ด ที่วิ่งเข้าไปซัดเต็มข้อไม่ถึง 3 หลาส่งบอลกระทบตาข่าย

กลุ่มเยี่ยมอยู่ไม่ได้จำต้องเปลี่ยนแปลงรวดเดียวสองคนส่งทั้ง ฟาบิโอ สิลวา และอดาม่า ตราโอเร่ ลงมาเล่นแทน ราย็อง ไอต์-นูริ และโอเว่น โอตาโซวี่

นาที 60 ตราโอเร่ กระชากบอลถึงเส้นข้างหลังแล้วครอสไปเสาสองให้ เปโดร เนโต้ วิ่งมากระแทกหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น

นาที 65 เจ้าถิ่นชวดได้ประตูลำดับที่สามอย่างน่าเสียดายข้างหลัง แอชลี่ย์ บาร์นส์ หลุดเข้าไปดวลคนเดียวแต่ว่ายิงไม่คมพอเพียงไปติดเซฟของ รุย ปาตริสิโอ ที่ออกมากีดขวางทัน

นาที 73 เป็นช่องทางได้ลุ้นตีไข่แตกของกลุ่มเยี่ยม ข้างหลังแนวรับเบิร์นลี่ย์สกัดบอลมาเข้าทาง รูเบน เนเวส ที่ยืนจากแถวสองวอลเลย์แบบไม่จับเข้าไปบอลพุ่งแรกจน นิค โพ๊พ จำต้องพุ่งออกไปปัด

นาที 89 “หมาป่า” มาได้ลูกที่จุดโทษข้างหลัง จอช เบนสัน ผู้เล่นสำรองเจ้าถิ่นไปทำฟาวล์ใส่ ฟาบิโอ สิลวา ก่อนที่หัวหอกค่าจ้างสถิติของสมาพันธ์จะลุกมาฆ่าจุดโทษเข้าไปให้ วูล์ฟส์ ไล่มาเป็น 1-2 และเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในลีกสูงสุดของอังกฤษอีก
ด้วย

จบเกม เบิร์นลี่ย์ คว้าชัยเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 เก็บสามแต้ม มีเพิ่มเป็น 13 คะแนนรั้งอันดับ 16 จักจี้ อาร์เซน่อล เพียงแค่แต้มเดียวแต่ว่าแข่งขันน้อยกว่าเพียงแค่ 13 เกม ส่วน “หมาป่า” แพ้ 3 นัดจาก 4 เกมปัจจุบัน อยู่อันดับ 11 มี 20 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งคู่กลุ่ม

เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โพ๊พ – แม็ทธิว โลว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์ – ร็อบบี้ เบรดี้ (เอริก ปีเตอร์ส น.69), แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, จอช บราวน์ฮิลล์, ดไวท์ แม็คนีล (จอช เบนสัน น.87) – คริส วู้ด, แอชลี่ย์ บาร์นส์ (เจย์ โรดริเกซุกซน.82)

ผู้จัดการทีม : ฌอน ไดช์

วูล์ฟแฮมป์ตัน (3-5-2) : รุย ปาตริสิโอ – แม็กซ์ คิลแมน, คอเนอร์ เคาดี้, โรแม็ง แซสส์ – เนลชอน เซเมโด้, โอเว่น โอตาโซวี่ (ฟาบิโอ สิลวา น.60), รูเบน เนเวส (วิตินญ่า น.76), ชูเอา มูตินโญ่, ราย็อง ไอต์-นูริ (อดามาา ตราโอเร่ น.60) – ดาเนี่ยล โปเดนเซ่, เปโดร เนโต้

ผู้จัดการทีม : นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน