อาร์เซน่อล VS วัตฟอร์ด 1-0 | อาร์เซน่อล ยังเดินหน้าคว้าชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เกมนี้ เปิดบ้านเฉือนหวิว วัตฟอร์ด 1-0 จากประตูชัยของ เอมิล สมิธ-โรว์ ในช่วงครึ่งหลัง ทำให้ ทัพ “ปืนใหญ่” เก็บเพิ่มเป็น 20 แต้ม พุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 5 แล้ว ส่วน ทีมเยือน หล่นมาอยู่อันดับที่ 17 ของตาราง
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2021/22 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2564 เป็นการเจอะกันระหว่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เปิดบ้านแข่งฟุตบอล “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด
VAR … เริ่มครึ่งแรก นาทีที่ 7 อาร์เซน่อล ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้แล้ว จากจังหวะที่ เมตแลนด์-ไนล์ส ไปแย่งบอลมาได้หน้าได้ตาเขตโทษ ก่อนหยอดมาให้ ลากาแซตต์ จับบอลแล้วกระดกข้ามหัว เบน ฟอสเตอร์ ทว่านายทวารทีมเยี่ยม ยืดมือไปปัดได้ แต่ลูกก็มาเข้าทาง โอบาเมยอง จ่ายต่อมาให้ ซาก้า ยิงจ่อๆเข้าไป ทว่าเมื่อมีการเช็คจาก VAR แล้ว ลูกนี้ดันแปลงเป็นลูกล้ำหน้า ทำให้ผู้ตัดสินริบประตูคืน
เกมช่วง 20 นาทีแรก ปืนใหญ่ ครอบครองเกมบุกได้เหนือกว่า ทว่ายังไม่มีจังหวะจบสกอร์เพิ่มเติมอีกแต่อย่างใด
PENALTY … นาทีที่ 34 อาร์เซน่อล มาได้ลูกจุดลูกโทษ จากจังหวะที่ ทีมมาได้ฟรีคิกทางปีกขวา ซาก้า เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู แนวรับทีมเยี่ยมโหม่งสกัดออกมา แล้วก็เป็น ตาวาเรส ยิงสวนเข้าไปแต่บอลปลิ้นเท้าลอยโด่งในเขตโทษ ลากาแซตต์ กำลังจะเล่นบอล แต่โดน ดินแดนนี่ โรส พุ่งเข้ามาเหนี่ยวคอล้มลง ผู้ตัดสินหยุดคิดก่อนจะเป่าให้เจ้าถิ่น ทว่า “ปืนใหญ่” ก็ชวดขึ้นนำ เมื่อ โอบาเมยอง ดันยิงไปติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์ แบบไม่น่าเชื่อ
นาทีที่ 40 วัตฟอร์ด แทบขึ้นนำ จากจังหวะที่ ปะทุชก้า ไปแย่งบอลได้หน้าได้ตาเขตโทษ ก่อนจะลากจี๋เข้าหาประตูแล้วซัดเรียดในทันที บอลพุ่งไปแฉลบ เบน ไวท์ เฉี่ยวเสาออกข้างหลังไปนิดนึงเท่านั้น
นาทีที่ 44 ปืนใหญ่ ชวดได้ประตูอีกแล้ว เมื่อทีมมาได้ลูกเตะมุม ซาก้า เปิดเข้าไปในเขตโทษ แล้วก็เป็น กาเบรียล ที่เทกตัวกระแทกกดลงพื้นแบบจ่อๆทว่า ฟอสเตอร์ ก็ยังใช้ขาเซฟออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
หมดครึ่งเวลาแรก ทั้งคู่ทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0กลับมาเตะกันต่อช่วงหลัง นาทีที่ 53 ทีมเยี่ยม มาได้ลุ้น จากจังหวะที่ ซิสโซเก๋ ได้บอลหน้าเขตโทษปืนใหญ่ ก่อนจะเปิดไปที่เสาไกลให้ เดนนิส ได้ตั้งป้อมซัด ทว่าเจ้าตัวดันยิไม่ดีเอง ลูกเลยปลิ้นออกข้างหลังไป
GOAL … นาทีที่ 56 อาร์เซน่อล ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เบน ไวท์ ตัดบอลได้ก่อนจะลากจี๋เข้าไปหน้าเขตโทษ แล้วโดน ซิสโซเก๋ เข้ามาปั๊มแย่งบอล แต่ลูกก็ยังมาเข้าทาง สมิธ-โรว์ วิ่งเข้ามากดเปรี้ยงเดียว บอลพุ่งผ่านมือ ฟอสเตอร์ เข้าไปตุงตาข่าย
