25/03/2023
Breaking News

เปรียบเทียบทาง “เพนกวิน” กับ “ไผ่-สมยศ” ฟ้าเหว !!

กลายเป็นเรื่องที่กดดันตนเองเพิ่มมากขึ้นจนกระทั่งแทบหาทางลง หาทางออกไม่พบแล้ว สำหรับ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” ที่ยังประกาศอดอาหาร (ดื่มแม้กระนั้นนม เกลือแร่ น้ำ) โดยยิ่งไปกว่านั้น นายพริษฐ์ ที่กล่าวถึงว่า กระทำการอดอาหารมานานเดือนกว่าแล้ว โดยกดดันกับศาลให้ได้รับการประกันตัว หลังจากเป็นเชลยในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เกี่ยวกับ พระราชา แล้วก็สถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วก็ข้อผิดพลาดอื่นอีกหลายข้อกล่าวหา ต่างบาปต่างวาระ

ที่จำเป็นต้องบอกว่า พวกเขา (พริษฐ์ แล้วก็ ปนัสยา) เริ่มกดดันตนเองเพิ่มมากขึ้นจากกรรมวิธีต่อสู้เพื่อได้รับการประกันตัว หลังจากมีความมานะบากบั่นยื่นคำร้องขอประกันตัวอยู่หลายที ทำทุกวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหลักทรัพย์ เพิ่มนายประกันที่คิดว่ามีความน่าวางใจ หรือแม้แต่การอ้างเรื่องปัญหาด้านสุขภาพ การเรียน (การสอบ) แม้กระนั้นก็ยังไม่เกิดผล

เนื่องจากว่าศาลยกคำขอทุกคราวโดยให้เหตุผลแบบเดิม ก็คือ ยังไม่มีเหตุให้เปลี่ยนคำบัญชาเดิม ซึ่งความหมายก็คือ นอกจากข้อผิดพลาดที่ถูกฟ้องมีอัตราโทษสูงแล้ว ที่สำคัญก็คือ เชลยยังมีท่าทีขยับเขยื้อนในลักษณะแบบเดิม บ่อยๆไม่หวาดกลัวข้อบังคับ โดยยิ่งไปกว่านั้นพฤติกรรมที่ถูกกล่าวโทษในประเด็นการ “ล่วงเกิน” สถาบันพระมหากษัตริย์

แม้ว่าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เชลยพวกนี้มักจะกล่าวถึงว่า พวกเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบเท่าที่ศาลยังไม่ตัดสินว่ามีความผิด แม้กระนั้นข้อบังคับก็มีข้องดเว้น แล้วก็เป็นดุลพินิจของศาล ถ้าเกิดผู้ต้องหาหรือเชลยยังมีท่าทีขยับเขยื้อนทำในสิ่งที่ถูกฟ้องในแบบเดิมบ่อยๆโดยยิ่งไปกว่านั้นการเคลื่อนไหวที่กระทบกับความรู้สึกของพลเมืองหลายชิ้น อาทิเช่น การกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่หยุดหย่อน

ช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเชลยบางคนที่เคยขยับเขยื้อนในแบบเดียวกันมาก่อน แล้วก็ถูกฟ้องเป็นเชลยในคดีแบบเดียวกัน ข้อกล่าวหาเดียวกัน อาทิเช่น นายปฏิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ “หมอลำแบงค์” ที่ได้รับการประกันตัวเป็นคนแรก โดยมีเงื่อนไขว่า จะไม่ขยับเขยื้อนกล่าวถึงสถาบันฯให้เกิดความเสียหาย ไม่ขยับเขยื้อนร่วมชุมนุมในลักษณะแบบเดิมอีก รวมไปถึงการันตีว่าถ้าเกิดได้รับการประกันตัวออกไปจะประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงตนเอง อะไรประมาณนี้
หรือแม้แต่กรณีของ นายจตุๆภัทร์ บุญเจริญรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” แล้วก็ นายสมขั้น ต้นไม้เกษมสุข ที่เพิ่งได้รับการประกันตัวไปพร้อมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ยื่นข้อตกลงต่อศาลในลักษณะก็จะคล้ายกัน ก็ได้ออกมาอยู่ข้างนอกเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว อย่างต่ำก็ได้มีเวลา “สุดดมอิสระ” แล้วก็มีอิสระสำหรับเพื่อการต่อสู้คดี สามารถขอคำแนะนำทนายความ แล้วก็คนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวสำหรับเพื่อการต่อสู้คดีตามข้อกล่าวหาได้อย่างเต็มที่ ส่วนผลจะออกมาแบบไหนค่อยมาว่ากัน

ตอนที่หันมาใคร่ครวญกรรมวิธีต่อสู้ของ ทั้ง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แล้วก็ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่ยังการันตีกระบวนการแบบเดิม นั่นคือ ยังการันตีวิธีการเดิมตามความศรัทธาของตนเองว่า แนวทางแบบนี้จะเห็นผล นั่นคือ อ้างถึงวิธีการความบริสุทธิ์ตราบเท่าที่ยังไม่มีคำวินิจฉัยข้อผิดพลาดออกมา รวมไปถึงใช้วิธีขยับเขยื้อนของมวลชนจากข้างนอกร่วมกดดันศาล ประสานกับการเคลื่อนไหวอดอาหาร (แม้กระนั้น ดื่มนม โอวัลติน ไมโล น้ำ เกลือแร่) หรือแม้แต่การมีท่าทีการเคลื่อนไหวในแบบ “ล้ำเส้น” นั่นคือ การ “ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม” การละเมิดอำนาจศาล ฯลฯ

แน่ๆว่า กรรมวิธีต่อสู้คดีในแบบดังกล่าวข้างต้น ถือได้ว่าสิทธิ์ของผู้ต้องหาหรือเชลย ถ้าเกิดมีความเห็นว่าตนเองได้ประโยชน์ หรือมีความเห็นว่าถูกต้อง แม้กระนั้นช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อกล่าวถึงว่าตนเองต่อสู้เพื่อสาธารณะ ก็จำเป็นต้องยอมรับได้กับเสียงวิจารณ์จากข้างนอกถึงกรรมวิธีขยับเขยื้อนของตนเอง ว่าคนอื่นเขามีความเห็นยังไงด้วย

ปัจจุบัน “นางดวงตะวันรัตน์ ชิวารักษ์” แม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” ได้เดินทางมายื่นประกันตัวบุตรชายอีกรอบ โดยกล่าวถึงว่า ปัจจุบันนี้ลูกชายมีลักษณะอาการอ่อนแรงมากมาย ผิวหนังมีลักษณะแห้ง มีลักษณะอาการวูบตลอดเวลา แล้วก็ที่สำคัญคือ พบว่าถ่ายออกมาเป็นชิ้นเนื้อ จากลักษณะของอาการที่เกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องมายื่นขอประกันให้เร็วที่สุด แม้กระนั้นทนายความบอกว่า มีโอกาสที่จะมิได้รับการประกันตัว ซึ่งตนเองก็ยังการันตีว่าจะขอเดินหน้าประกันให้เต็มกำลัง
นางดวงตะวันรัตน์ กล่าวว่า ถ้าเกิดวันนี้ผลออกมาว่า “เพนกวิน” มิได้ประกันตัว คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นพอๆกับเจตนาให้เพนกวินเสียชีวิตอย่างทรมาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกชายไม่ควรจะได้รับ แม้ว่าในเวลาต่อมาทางกรมราชทัณฑ์จะแถลงการันตีว่า ลักษณะของ นายพริษฐ์ แค่อ่อนแรง ไมได้มีลักษณะอาการร้ายแรงอะไร

แม้ว่าจะมีรายงานว่า มีความมานะบากบั่นยื่นประกันกับเชลยรายอื่นๆด้วย อาทิเช่น นายอานนท์ นำภา นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นายภาณุพงศ์พันธุ์ จาดนอก ฯลฯ แม้กระนั้นที่จำเป็นต้องโฟกัสไปที่ นายพริษฐ์ แล้วก็ นางสาวปนัสยา ด้วยเหตุว่าสองคนนี้เลือกใช้วิธีอดอาหารเพื่อคัดค้าน หรือกดดันศาลให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

อย่างไรก็ดี แม้ว่าทุกสิ่งขึ้นกับดุลพินิจของศาลว่าจะอนุญาตให้ประกันตัวออกไปไหม ซึ่งต้องใคร่ครวญตามเหตุผลที่มีการแจกแจงออกมาข้างหลังการสั่งคดีทุกคราว แม้กระนั้นสำหรับหลายท่านคิดว่ากระบวนการที่ทั้ง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แล้วก็ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล จัดการอยู่นั่นไม่น่าจะประสบความสำเร็จ
ตรงกันข้าม จะยิ่งกดดันรัดคอตนเองเพิ่มมากขึ้นประกอบกับกระแสจากข้างนอก “แผ่วๆ” จนกระทั่งเหนื่อยกระตุ้นใดๆเลย มันก็ยิ่งดำดิ่งลงเหว !!