หนังประเด็นนี้ได้ผลสำเร็จงานการควบคุมแล้วก็เขียนบทจากผู้กำกับคนใหม่ศูนย์รวมพลังกัน 3 คนอันยกตัวอย่างเช่น หลี่จ้าวจุน, ฉีป่อหลิน แล้วก็ หลิวหย่งไท่ บางทีอาจด้วยได้ผลสำเร็จงานแบบคนไฟแรงทำให้ได้พลอตเรื่องที่สดใหม่น่าตื่นตาตื่นใจ ในเวลาเดียวกันก็พร่องด้วยความฮึกเฮิมที่ยังทำเส้นเรื่องโดยรวมไม่ค่อยกลมกล่อมละมุนละไม มีความอยากโชว์ที่โดดเด้งกระทั่งหนังเสียรสอยู่เช่นเดียวกัน แต่ว่าภาพรวมก็จะต้องสรรเสริญที่คนทำหนังฮ่องกงยังมีพลังความคิดริเริ่มสร้างภาพยนตร์แนวศาลผสมกับแนวธริลเลอร์กึ่งซูเปอร์วีรบุรุษมาได้
สำหรับคนชอบดูหนังฮ่องกงคงจะชื่นมื่นที่ได้มองเห็นบริเวณใบหน้าที่รู้จักดีมาโลดแล่นในหน้าจอให้ได้หายนึกถึงกันไม่ว่าจะเป็น จางเจียฮุย ในบทด็อกเตอร์ฮุยผู้เชี่ยวชาญการใช้จิตวิทยาสั่งการการกระทำ จางเจ้าฮุย ในบทชายปัญหาที่ลักพาตัวบุตรสาวของด็อกเตอร์ฮุยเพื่อขู่ให้บันดาลผลของการตัดสินตามสั่ง เจิ้งเจ๋อซื่อ ดาราที่ถูกล้อว่าหน้าเหมือนรองนายกไทยก็มาในบทของหัวหน้าลูกขุนผู้ทรงคุณความดี โหลวยิงจุน ในบททนายข้างเชลยที่มีประวัติกลับผิดเป็นถูกได้ แล้วก็ท้ายที่สุด ฉินเพ่ย ที่มาในบทมหาเศรษฐีที่พยายามปกปิดข้อผิดพลาดของลูกชายตัวเอง ดูตัวละครแล้วก็เรื่องย่อเพียงเท่านี้ก็อาจจะเพียงพอเห็นภาพของหนัง ว่ามันช่างคล้ายคลึงบุคคลในข่าวสารประเทศไทยเสียเหลือเกินนะ (ฮา)
นอกจากนั้นก็ยังมีดารารุ่นใหม่อย่าง จางฮั่น มาสมทบในบทของน้องชายด็อกเตอร์ฮุยที่เป็นตำรวจแล้วก็พยายามช่วยหลานรักจากฆาตกรลักพาตัว คู่ขนานไปกับสถานการณ์ในห้องที่ใช้ในการประชุมลูกขุนที่เคร่งเคลียด และก็มี ไช่ฮั่นอี้ อีกหนึ่งหนุ่มที่มารับบทผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิศาสตร์หนึ่งในลูกขุนที่เฉลี่ยวฉลาดพอกันแล้วก็สังเกตุมองเห็นความผิดปกติของด็อกเตอร์ฮุยผู้แสดงนำชายของเรา
โดยรวมจะต้องกล่าวว่าสร้างติดอยู่แรกเตอร์นักแสดงต่างๆได้น่าดึงดูดดี มีความเชยของการเล่าเรื่องนิดๆที่พยายามให้มีความเป็นแอ็กชันในสไตล์หนังฮ่องกงแล่นอยู่นอกห้องที่ใช้ในการประชุม แล้วก็อย่างมากคือฉากจบที่แบบ หืม นี่มันหนังยอดมนุษย์หรือไรหนอแม่ (ฮา) แต่ว่าก็อาจจะทำให้คนชอบดูหนังฮ่องกงรู้สึกชื่นชอบอยู่โน่นล่ะ ส่วนในด้านของการชิงไหวชิงพริบในห้องลูกขุนที่นับว่าเป็นความสดใหม่ ก็สนุกทั้งยังการหาเหลี่ยมชิงจังหวะกันระหว่างผู้แสดงนำชายกับหัวหน้าฆาตกรที่คอยสั่งการแล้วก็แอบดูผ่านกล้องถ่ายรูปสปายอยู่ สะกดจิต พลิกคดี
อีกด้านการที่ผู้แสดงนำชายต้องหาช่องในการโน้มน้าวจิตใจของลูกขุน ณ ศาลหลวงแต่ละคนที่มีปมต่างกันไป บางคนแค้นทนายความฝั่งโจทย์เพราะว่าเคยทำให้ตนแพ้คดีความช่วยคนร่ำรวยหลุดคดีไป หรือบางคนก็แอบส่งผลประโยชน์ในการตัดสินเพราะว่าแอบลงทุนช้อนหุ้นบริษัทของเชลยไว้แล้ว ทริกแล้วก็หลักการในการสั่งการการกระทำของผู้แสดงนำชายที่ฝืนใจใช้เพื่อช่วยบุตรสาวก็เป็นอีกความสนุกสนานที่น่าติดตาม
ในส่วนที่เกลียดชังก็มีอยู่ในแง่การโกงบท ที่เปลี่ยนแปลงจากนักจิตวิทยาที่อาศัยทริกต่างๆเปลี่ยนแปลงทัศนคติการกระทำผู้คน กลายไปเป็นนักสะกดจิตผู้ทรงพลังในระยะหลังเพื่อคลี่คลายปมเรื่องให้ผ่านไปง่าย ก็น่าเสียดายเชิงชั้นที่ปูมาแต่เดิม แล้วก็ยิ่งเพียงพอฮึกเฮิมเล่นนู้นนี่ใหญ่ขึ้นมันก็กำเนิดรอยเว้าแหว่งแหว่งในความน่านับถือของหนังไปเรื่อยอย่างการปะทุห้องที่ใช้ในการประชุม หรือฉากชิงตัวประกันช่วงท้าย แล้วก็รวมถึงการสะกดจิตครั้งใหญ่ ก็เรียกว่าระยะหลังของหนังแทบแปลงเป็นหนังยอดมนุษย์อยู่รำไรแล้ว ดีว่าท้ายที่สุดมันก็ยังไม่หลุดแนวเกินความจำเป็น ยังเพียงพอยอมรับได้
สรุป ก็เป็นหนังแนวศาลที่แปลกใหม่ดี น่าติดตาม ได้มองเห็นไอเดียใหม่ๆใหม่ๆเว่อนิดๆแต่ว่าเพียงพอยอมรับได้ ได้พบผู้แสดงเก่าๆหลายๆคนที่ยังฝีมือจัดจ้าน ได้มองเห็นคนเหมือนรองนายกแสดงบททรงคุณความดีถึงมีฉากโดน “นาฬิกา” สะกดจิตแต่ว่าก็พยายามสู้เพื่อความถูกต้องชัดเจน ได้มองเห็นกระบวนการยุติธรรมหาทางเอาชนะความทารุณคืนเรื่องจริงให้กับเหยื่อ แล้วก็ได้มองเห็นการลงโทษคนผิดที่อยู่เบื้องหลังแม้จะมีอานาจมีพลังเงินในมือมากมายก่ายกองได้ อะไรเหล่านี้ก็ช่วยเยียวยาความรู้สึกหม่นหมองในโลกเรื่องจริงของเราได้ไม่น้อยนะ หนังสนุกมองได้เพลิดเพลินๆเลย
ลักษณะเด่น
หนังฮ่องกงกระแสรองใหม่ๆที่ไม่ค่อยมีให้มองมากสักเท่าไรนักแล้ว แถมมีพลอจที่น่าดึงดูด ยังไม่นับว่าเป็นหนังแนวศาลที่คนชอบดูหนังแนวชิงไหวชิงพริบหาดูได้ค่อนข้างจะยากด้วยนะ แรร์เลย
จุดสังเกต
ความเว่อ แล้วก็ฮึกเฮิมไฟแรงของผู้สร้างคนใหม่ หนังเลยมีความหลุดนิดๆหน่อยๆบททุจริตผู้ชม แต่ว่ามองเพลิดเพลินๆปลดปล่อยผ่านความยอดมนุษย์ไปก็ยังเพียงพอยอมรับได้ล่ะนะ
คะแนน 8.4