องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก มีมติเสียงส่วนใหญ่ขึ้นทะเบียนให้ “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ประจำปี 2564 ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพการจัดสัมมนาผ่านระบบทางไกล ระหว่างวันที่ 16 -31 เดือนกรกฎาคม 2564 โดยในวันนี้ (26 เดือนกรกฎาคม) คณะกรรมการได้พินิจพิเคราะห์ให้กลุ่มป่าแก่งกระจาน ของไทยได้รับการบรรจุเข้าเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
ข่าวสารคราวนี้มีขึ้น ภายหลังจากเมื่อวันที่ 23 เดือนกรกฎาคม คณะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ ได้เรียกร้ององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติไม่ให้ขึ้นสถานะมรดกโลกให้แก่ป่าแห่งนี้ จากปัญหาด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชนพื้นเมืองกะเหรี่ยงในพื้นที่
นายวราวุธ ศิลปม้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและก็สภาพแวดล้อม (นายทหารคนสนิท) แถลงเมื่อทราบผล แสดงความยินดีต่อข่าวสารนี้ โดยพูดว่า กว่า 6 ปี ที่เมืองไทยมุ่งมั่นผลักดันพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน และก็เข้าสู่การพินิจของคณะกรรมการมรดกโลก โดยมีการพรีเซ็นท์มาแล้วถึง 3 ครั้งในปี พุทธศักราช 2558, พุทธศักราช 2559 และก็ พุทธศักราช 2562 กระทั่งเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปี พุทธศักราช 2564 นี้
นายวราวุธ บอกว่า เป็นที่น่าดีใจว่าในปีนี้พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้กฏเกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นความเสร็จในการปฏิบัติการรักษาพื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในบ้านเกิด รวมถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของประเภทพืชพันธุ์ และก็พันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงรักษาระดับนานาชาติ
กลุ่มป่าแก่งกระจาน นับว่าเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของไทย และก็เป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของประเทศ นับจากการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ – ห้วยแข้งขา ในปี พุทธศักราช 2534 และก็กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ ในปี พุทธศักราช 2548
โดยกลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพราะเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของประเภทพืชพันธุ์และก็พันธุ์สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และก็มีคุณค่าเด่นระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และก็แม่น้ำภาชี เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ราวๆ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดของพื้นที่กว่า 200 กม.

ท้วงขึ้นทะเบียน “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” เป็นมรดกโลก
เมื่อเวลาเช้าก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายเซฟบางกลอยดำเนินกิจกรรมข้างหน้ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและก็สภาพแวดล้อม เพื่อเรียกร้องให้รัฐขจัดปัญหาสิทธิมนุษยชนให้ได้ก่อนขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็น “มรดกโลก” ทางธรรมชาติ หรือไม่ก็ชะลอการพินิจหัวข้อนี้ออกไป
กิจกรรมดังที่ได้กล่าวมาแล้วใช้ชื่อว่า “มรดกโลก มรดกเลือด” เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้ของสิทธิชุมชนในพื้นที่ยังมิได้รับการปรับแต่งแม้ว่าจะต่อสู้มาแล้วกว่า 25 ปี การจัดกิจกรรมนี้เกิดขึ้นระหว่างที่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 44 ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง 16 -31 เดือนกรกฎาคม ที่จีนเมื่อวันที่ 23 เดือนกรกฎาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ ออกคำตักเตือนส่งถึงคณะกรรมการมรดกโลกให้ลงความเห็นยกเลิกการขอขึ้นทะเบียนดังที่ได้กล่าวมาแล้วเพราะมีชนพื้นเมืองกะเหรี่ยงถูกละเมิดสิทธิในเขตอุทยานดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการมรดกโลกได้ไม่ยอมรับการขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานไปแล้ว 2 ครั้งในปี 2559 และก็ 2562
ก่อนที่่จะมาถึงวันนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง
การฟ้องฐานล่วงล้ำป่าและก็การบังคับย้ายชาวบ้านกะเหรี่ยงบางกลอยบน อำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่กลับขึ้นไปทำกินยังรกรากเดิม ตาม “ยุทธการรักษาป่าต้นน้ำเพชร” ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กลับไม่มีผลข้างเคียงต่อการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติไทยของแก่งกระจาน
ยุทธการเอาคนออกมาจากป่าต้นน้ำของอุทยานฯ แก่งกระจานเริ่มมาตั้งแต่ปี 2535 เหตุการณ์ที่ถูกเอ๋ยถึงมากที่สุดครั้งหนึ่งในมหากาพย์ความไม่ถูกกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชาวบ้านที่ “ป่าใจแผ่นดิน-บ้านบางกลอย” เป็นการเผาบ้านช่องชาวเขาเมื่อปี 2554
ต้นเดือน มี.ค. ความไม่ถูกกันได้ปะทุขึ้นอีกทีเมื่ออุทยานฯ แก่งกระจานได้แจ้งเหตุฟ้องฐานล่วงล้ำป่าและก็สนธิกำลังจับตัวชาวบ้าน 22 คน เมื่อวันที่ 5 มี.ค. และก็บังคับโยกย้ายชาวบ้าน 85 คน ลงมาจากบ้านบางกลอยบน
ช่วงเวลาที่ทางอุทยานฯ เดินหน้าเอาคนออกมาจากป่าต้นน้ำ แก่งกระจานก็อยู่ในกระบวนการยื่นเสนอเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ซึ่งการพินิจครั้งปัจจุบันเมื่อปี เดือนกรกฎาคม 2562 ที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ลงความเห็นไม่รับรองให้อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และก็ให้สถานะ “ส่งเรื่องกลับ” (Referral)
“แก้ไขข้อห่วงตื่นตระหนกเกี่ยวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนกับกลุ่มชาติพันธุ์และก็ชุมชนแคว้นที่ได้รับผลพวงจากการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก” เป็น 1 ใน 3 ข้อแนะนำจากที่สัมมนาคณะกรรมการมรดกโลกขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ