27/03/2023
Breaking News

7 ลำดับหนังดราม่า ร้องไห้ ที่ทุกคนจำต้องดู

บรรยากาศหม่นๆเทาๆเคล้าเสียงฝนอย่างนี้ ลองหาหนังดูสักเรื่องดีไหมขา ? แต่ถ้าหากจะให้ฟินอินกันขั้นสุดก็ควรเป็นหนังศร้านี่แหละถึงจะเข้ากับบรรยากาศ วันนี้ จึงรวมลิสต์ 7 หนังทุกข์ใจ สุดดราม่า ดูแล้วเรียกน้ำตาได้ทุกหนมาฝาก ผู้ใดกันแน่กำลังอยากปล่อยอารมณ์ถ่วงๆตอนวันหยุด ท่ามกลางบรรยากาศเป็นใจ ก็ลองเลือกหนังที่สนใจไปดูกันได้เลยจ๊า


ลำดับที่ 7
My Sister’s Keeper

My Sister’s Keeper
หนังแนวดราม่าครอบครัวที่มีลูกสาวเป็นลูคีภรรยามาตั้งแต่เล็กๆ
ไม่มีทางรักษาหายได้แต่รอพยุงกันมา แพทย์เลยชี้แนะให้มีลูกสาวอีกคนเพื่อมาช่วยลูกอีกคน
เพราะมีโครโมโซมตรงกับพี่สาวทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง จริงๆไม่ได้ดูตอนเริ่มต้น แต่ก็เพียงพอจะเดาอะไรตอนแรกได้บ้าง
หนังเล่าเรื่องได้สุภาพละมุน เริ่มที่แม่ก่อนแล้วกัน ดูแล้วประทับใจในช่วงเวลาที่แม่เซ้าซี้ให้ลูกสาว
ออกไปด้านนอกบ้าง ออกไปพบไรบ้างไม่อยากที่จะให้ลูกคดคู้อยู่แต่ข้างในบ้าน
ลูกสาวก้อเอาแต่ตวาดรวมทั้งพร่ำเพ้อว่าตนเองไม่สวยมีภาวะอย่างนี้ (ผมร่วงหมดแล้ว) จะให้หนูออกไปอย่างไร
ข้างแม่ไม่พูดรำพันทำเพลง….เข้าไปในห้องแล้วก็ใช้แบตตามันโกนผมตัวเองจนถึงล้านให้เช่นเดียวกับลูก
ดูช่วงนี้น้ำตาก็เกือบจะร่วงแล้วล่ะ ความรักของแม่
ถัดมาก็คิวของบิดา ตั้งแต่รู้ว่าลูกเจ็บไข้ไม่เคยกล่าวอะไรสักคำ ได้แต่ปลดปล่อยให้แม่จัดแจงนั่นนี่ไปบ่อย
แต่ในใจเจ็บปวดรวดร้าว คนเป็นบิดาเนอะผู้ชายชอบรายละเอียดไม่มากเท่าไร… แต่แววตาที่มองลูกสาว
ทำให้เราดูไปน้ำตาคลอหน่วยไป ในช่วงเวลาที่หมอบอกว่าอาจจนมุมแล้ว เหลือเวลาไม่มากเท่าไร ลูกสาวอยาก
ไปทะเล ช่วงนี้ล่ะที่บิดารวมทั้งแม่มีความเห็นที่แตกต่างกัน


ลำดับที่ 6
The Joy Luck Club

The-Joy-Luck-Club.jp
 

เรื่องราวมีความเชื่อมโยงกันในแต่ละมุมมองของนักแสดง โดยขึ้นต้นจากเรื่องเดี๋ยวนี้ คือ งานกินเลี้ยงวันเกิดจูน ตัวเอกของเรื่อง แล้วเล่าถึงที่มาของ The Joy Luck Club ที่ซื่อหยวนแม่ของจูนเป็นคนตั้งขึ้นมาจากการพบกับเพื่อนอีก 3 คนในโบสถ์ รวมทั้งการเล่าเรื่องของ Lindo ผ่านซื่อหยวนแม่ของจูนที่ Lindo รำพันถึงการที่ซื่อหยวนทิ้งฝาแฝดไว้ที่เมืองจีน ว่าแม่คนนึงเพราะอะไรถึงตัดสินใจทิ้งลูกได้ นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นการเล่าถึงชีวิตในวัยเด็กของ Lindo ที่แม่ยกเธอให้เป็นสะใภ้เครือญาติคหบดีตั้งแต่ 4 ขวบ เชื่อมโยงมาที่ Ying Ying รำพันถึงสิ่งที่เลวร้ายกว่าการทิ้งลูก มันก็คือภูมิหลังแต่หนหลังของเธอกับความสารเลวร้ายในชีวิตคู่ครั้งแรกที่เมืองจีนจนถึงทำให้เธอพลั้งมือปลดปล่อยให้ดวงตาย รวมทั้งเปลี่ยนเป็นปมในใจบ่อยมาจนถึงเธอมีภาวการณ์ซึมเซา ส่งผลต่อลูกสาวอย่าง Lena ที่โตมากับแม่ที่เจ็บไข้ ทำให้ Lena ซึ่งเป็นคนเล่าเรื่องลำดับต่อมามีลักษณะบุคลิกลักษณะแบบสมยอม วนไปจนถึงโรสกับแม่ คือ Anmei ซึ่งมีภูมิหลังชีวิตที่เป็นโศกนาฏกรรม (ให้อารมณ์มงกุฎดอกส้มมาก มีคุณผู้หญิงอันดับแรกสองสามสี่ ราวนั้นเลย) ตัดกลับมายังเรื่องเดี๋ยวนี้ของเรื่องที่จูน โดยโรสกล่าวกับจูนว่าแม่จูนไม่อยู่ขาดคนทำปูไปอย่างไรก็ไม่ดังเดิม เรื่องก็กลับมาเป็นจูนเล่าย้อนไปถึงเรื่องวันตรุษจีนที่แม่ทำปูเป็นหนสุดท้าย ซึ่งถือเป็นจุดไคลแมกซ์ของหนัง ที่แม่ลูกทะเลาะกันรวมทั้งได้ทำความเข้าใจกันสุดท้าย แล้วตัดกลับมาที่เรื่องเดี๋ยวนี้อีกรอบ


ลำดับที่ 5
I am sam

I am sam
หนังหัวข้อนี้เล่าเรื่องของ แซมชายคนนึงที่มีปัญญาเท่ากับเด็ก 7 ขวบ เขาปฏิบัติงานทำงานเป็นบริกรที่ร้านขายกาแฟ Starbuck ด้วยอัตราค่าแรง 8 เหรียญต่อชั่วโมง เขามีเพื่อนที่มีปัญหาทางด้านสติปัญญาเหมือนกัน มีการดำรงชีวิตที่แต่ละวันไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปๆมาๆกนัก รุ่งอรุณไปรับประทานข้าวที่ร้านค้าประจำ สั่งอาหารเดิมๆทุกสัปดาห์เขารวมทั้งเพื่อนๆมีนัดดูหนังกัน ซึ่งก็ไม่มีใครผิดนัด แซมดำรงชีวิตอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยจนถึงวันนึง ดันมีลูกกับเพศหญิงคนนึง เขาตั้งชื่อลูกว่าลูซี่ ชีวิตของแซมก็เปลี่ยนไป รวมทั้งถัดมาเพศหญิงคนนั้นทิ้งเขารวมทั้งลูซี่ไป แซมจึงจำต้องเลี้ยงลูซี่ผู้เดียว ด้วยที่เป็นผู้ที่มีปัญญาเท่ากับเด็ก เขาจึงไม่รู้กระบวนการเลี้ยงลูก จนถึงแอนนี่เพื่อนบ้านจำต้องมาชี้แนะการเลี้ยงลูก รวมทั้งช่วยเลี้ยงลูซี่ไปพลางๆด้วย อีกทั้งเพื่อนๆของแซมก็ช่วยกันเลี้ยงแบบสุดความสามารถ

 


ลำดับที่ 4
About Time

About Time
เป็นภาพยนตร์เก่าปี 2013 เป็นหนังครอบครัวแนว โรแมนติก คอมมาดี้ ดูแล้ว Feel good อมยิ้มตลอดเรื่อง ฉากเดินเรื่องไม่หวือหวาเป็นการถ่ายทอดชีวิตเรื่อยแต่ไม่มีเบื่อ เล่าเรื่องได้น่าดึงดูด ควรค่าแก่การดูสุดๆภาพสวย เดินเรื่องดี ผู้แสดงสมหน้าที่ ดารานำชายดูหน้าจืดๆบื้อๆหน่อยแต่ก็มีเสน่ห์ในตัวเอง นางเอกน่ารักมาก ยิ้มหวาน ดูแล้วยิ้มตามตลอด บิดาของดารานำชายที่เป็นตัวละครเอกอีกหนึ่งตัวในเรื่อง ก็แสดงดีเลิศ ช่วยดำเนินให้เรื่องสนุกรวมทั้งน่าดึงดูด เป็นส่วนที่ช่วยให้ภาพยนตร์หัวข้อนี้จบดีเลิศๆ

 

ลำดับที่ 3
Slumdog Millionaire

Slumdog Millionaire
หนังออสการ์เหมาะสมที่สุดปีปัจจุบันนี้เกือบจะดับรวมทั้งตกลงเหวแล้ว เพราะจะถูกส่งลงเป็นแผ่นก่อนที่จะลงโรงเสียอีก กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมายิ่งกว่าสินเดอเรลล่าหรือนักแสดงเทพนิยายใดๆก็ตามแถมยังมาแบบเหนือเมฆ เพราะช่วงนี้ราคาหนังสูงมากจนถึงประเทศไทยเองเกือบจะไม่เอามาฉายซะแล้ว เพราะมันราคาแพง เป็นหนังอิน(ดี้)เดียที่จำกัดโรงฉาย ไม่คุ้มลงทุน ทั้งยังหนทางหนังก็ไม่ถูกปากคนประเทศไทยนัก แต่ด้วยกระแสด้านบวกล้นหลามจากปากต่อปาก นักวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งสามารถคว้ารับรางวัลภาพยนตร์เหมาะสมที่สุดจากลูกโลกทองคำรวมทั้งออสการ์ Slumdog Millionaire จึงได้โอกาสมาให้คนประเทศไทยลิ้มชิมรสจนได้ หนังหัวข้อนี้ผลิตขึ้นมาจากเรื่องสั้นที่เผยสังคมอินเดียผ่านเรื่องราวของจามาล มาริค เด็กวัยหนุ่มวัย 18 หน้าตาฉลาดหลักแหลม(น้อย) ปฏิบัติงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่มีพื้นเพมาจากสลัมมุมไบ กลับเปลี่ยนได้มาเล่นเกมส์ในรายการ Who Wants To Be A Millionaire (หรือรายการเกมส์เศรษฐีบ้านเรานั่นแหละนะครับ) จามาลเหลืออีกเพียงแค่หนึ่งคำตอบที่ถูกจากหนึ่งปัญหาก็จะคว้าเงินรางวัลสูงสุด 20 ล้านรูปี ด้วยลักษณะรวมทั้งพื้นเพภูมิหลังของเขา ทำให้เพรม คูมาร์ผู้ดำเนินรายการของรายการมีความรู้สึกว่าจามาลทุจริตเกมส์การแข่งขัน ตอนพักรายการก่อนถ่ายต่อปัญหาสุดท้าย ตำรวจจึงนำตัวเขาไป(ทรมาน)สืบสวนเค้นความจริง เด็กวัยหนุ่มจากสลัมจึงเล่าเรื่องทุกๆสิ่งทุกๆอย่างในสมัยก่อนที่เป็นกุญแจไขสู่คำตอบให้ฟัง ชีวิตความเป็นอยู่ของจามาล สะท้อนภาพลักษณ์ สังคม

 

 

ลำดับที่ 2
Hachiko A Dog’s Story

Hachiko A Dog’s Story
หนังแนวดราม่าที่ผลิตขึ้นมาจากเรื่องจริง ของญี่ปุ่น เนื้อหาหนังเกี่ยวกับหมาตัวนึงที่ถูกเก็บ มีความซื่อตรงมากมันชอบเดินตามไปส่งเจ้าของที่สถานีรถไฟ รวมทั้งมารอรับผู้ครอบครองกลับแต่ละวัน
ทุกคนต่างชื่นชมในความซื้อซื่อตรงน่ารัก ภักดีของหมาตัวนี้จนถึงช่วงวันที่แสนทุกข์ใจมาถึง ไม่มีใครอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป ผู้ครอบครองของมันได้ตายลงแม้มันจะรู้ แต่มันยังคงไปคอยเขาอยู่ที่สถานีรถไฟแต่ละวัน
เนื้อเรื่องที่ผมเล่ามา ผมได้อ่านก่อนดูหนัง ผมรู้ว่าผู้ครอบครองจะตายรู้ทั้งรู้ว่าหนังมันจำต้องเล่นกับอารมณ์ตูแน่ๆ
แต่ก็ไม่อาจห้ามน้ำตาตัวเองได้ ดูไปเรื่อยเพียงพอถึงกลางเรื่องร้องไห้ออกมาจากตา 1 หยด ตกอกตกใจมาก เห้ย นี่ตูกลั้นสุดๆแล้วนะโว้ยยยไปซักพัก เต็มหน้า สะอึกสะอื้น ไม่ไหวจะจัดการมากๆร้องไห้ตั้งแต่กลางเรื่องกระทั่งถึงตอนจบ
หนังดีเลิศ ดนตรีซาบซึ้งใจสุดๆบางบุคคลที่บ่อน้ำตาตื้นหน่อย เพียงแค่ฟังดนตรีแล้วนึกภาพในหนังก็ร้องไห้ได้อย่างยิ่งจริงๆ สำหรับหนังหัวข้อนี้ ผมยอมยกธงขาวนะครับ ทำร้องไห้ซะเสียมาดคนใจแข็งเลย ผู้ที่กำลังหาหนังที่สามารถทำคุณร้องไห้ได้ หรือบิ้วอารมณ์สุดๆผมชี้แนะหัวข้อนี้เลยนะครับ จะเก็บไว้ให้ลูกให้หลาน ให้เพื่อนได้ดูแน่ๆหนังดีเลิศ

 


ลำดับที่ 1
The Shawshank Redemption

The Shawshank Redemption
หนังที่เล่าถึงสภาพแวดล้อมในด้านมืดของตาราง ความไม่ซื่อตรงและก็การเอาชีวิตรอดในโลกที่ทารุณถูกถ่ายทอดออกมาอย่างถ่องแท้รวมทั้งซาบซึ้งใจ สารภาพว่าตัวผู้เขียนเองดูรอบแรกจบลงไปรวมทั้งยังไม่ถึงกับติดอกติดใจในหนังหัวข้อนี้มากเท่าที่ควร แต่เมื่อได้เอามันกลับมาดูอีกรอบก็เกิดติดอกติดใจขึ้นมาในความที่มันเป็นหนังเล่าเรื่องได้น่าติดตามมาก แอบแฝงไปด้วยแง่คิดอะไรหลายๆอย่างรวมถึงความละมุน ประณีตบรรจงและละเอียดลออของบทภาพยนตร์ที่แม้แต่ผู้ชมผู้ชายก็บางทีก็อาจจะเสียน้ำตาให้กับหนังหัวข้อนี้ได้