ท่ามกลางความวิตกกังวลเรื่องสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน ภาพยนตร์และหนังสือมากมายที่เกี่ยวข้องกับประเทศนี้ถูกพูดถึง รวมทั้งหนังสือเล่มนี้ “ถนนหนังสือสายคาบูล”
กว่าคอลัมน์ World Pulse จะมาถึงมือนักอ่านในวันนี้ บทวิเคราะห์สถานการณ์แล้วก็อนาคตของอัฟกานิสถานในอุ้งมือตาลีบันก็มีให้อ่านจนถึงปรุแล้วทั้งจากสื่อไทยแล้วก็สื่อต่างประเทศ แม้กระนั้นตลอดเวลาที่มีข่าวตาลีบันรุกคืบหลังสหรัฐถอนกำลังออกไป รอเวลายึดกรุงคาบูล อย่างเดียวที่คนเขียนระลึกถึงอยู่ตลอดเวลาเป็น “ถนนหนังสือสายคาบูล” หนังสือยอดฮิตนิรันดรในประเทศนอร์เวย์ ได้รับการแปลแล้วหลายภาษารวมทั้งภาษาไทยเมื่อปี 2550 วันนี้เห็นสมควรได้เวลากลับไปอ่านหนังสือเล่มนี้อีกครั้ง
ถนนหนังสือสายคาบูล หรือ The Bookseller of Kabul ผลงานของอสนี เซียร์สตัด (Asne Seierstad) นักข่าวหญิงชาวประเทศนอร์เวย์ แปลโดยจิระความสนุกสนาน พิตรปรีชา ประพันธ์ซีไรต์ ก็เลยไม่แปลกที่อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วราวกับล่องลอยอยู่ในม่านเมฆ ด้วยสำนวนแปลที่ลื่นไหลราวบทประพันธ์ไม่มีสะดุดต่างจากการอ่านหนังสือแปลเล่มอื่นๆ คำนำสำนักพิมพ์ระบุ “ถึงแม้ว่าถนนหนังสือสายคาบูลจะถูกเสนอในรูปแบบของนิยาย ถ้าแม้กระนั้นเรื่องราวต่างๆที่เกิดในเล่มนี้เป็นความจริงทั้งหมด” คนเขียนอ่านครั้งแรกเมื่อราว 4-5 ปีกลายโดยให้บุตรสาวยืมมาให้จากหอสมุดมหาวิทยาลัย อ่านแล้วชื่นชอบชูให้เป็นหนังสือขึ้นหิ้ง แม้กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเนื้อเรื่องยังหลงเหลือในความทรงจำเพียงนิดหน่อย ตราบจนกระทั่งเดือนที่ผ่านมาคนอ่านนักแปลรุ่นพี่มอบหนังสือเล่มนี้ที่คุณมีไว้ในครอบครองให้เป็นของขวัญ คนเขียนก็เลยจัดเตรียมลงมืออ่านรอบสองอย่างสอดคล้องกับสถานการณ์
รับรองโควิด เจอ จ่าย จบ! รับเลย 100,000 บาท
ย่อหน้าเดียวบอกครบทั้งความดีอกดีใจแล้วก็ความหวาดหวั่นกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเดินทางมาถึง ไม่ได้มีความแตกต่างกับความรู้สึกของชาวอัฟกันในวันนี้ที่ต้องพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง สิ่งที่ชุมชนโลกห่วงที่สุดเป็นสิทธิของผู้หญิงแล้วก็เด็กหญิง เพราะเหตุว่าตลอดการดูแลช่วงแรกระหว่างปี 2539-2544 ภายใต้ข้อบังคับอิสลาม ตาลีบันห้ามผู้หญิงดำเนินการ เด็กสาวมิได้เรียนหนังสือ เมื่อออกนอกบ้านต้องสวมชุดบุรกาหุ้มทั้งตัวแล้วก็ต้องมีญาติเพศชายคอยดูแล ตาลีบันสมัยใหม่ดูเหมือนจะทราบทิศทางลม การรายงานข่าวครั้งแรกนับจากยึดประเทศสำเร็จเมื่อวันอังคาร (17 เดือนสิงหาคม) ผู้ประกาศแถลง “ไม่ต้องการมีศัตรูไม่ว่าข้างในหรือข้างนอก ผู้หญิงจะได้รับอนุญาตให้เรียนหนังสือแล้วก็ดำเนินการ แล้วก็จะมีบทบาทอย่างขมีขมันในสังคม แม้กระนั้นภายใต้กรอบของอิสลาม”
ณ ขณะนี้ที่โลกกำลังจ้องอัฟกานิสถานภายใต้การปกครองของตาลีบัน (อีกครั้ง) คนเขียนก็เลยมีความคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเปิด “ถนนหนังสือสายคาบูล” อ่านอีกครั้ง เพื่อรู้เรื่องความเป็นมาเป็นไปของประเทศที่ได้ชื่อว่า “หลุมฝังศพของมหาอำนาจ” ที่นี้ให้มากยิ่งกว่าเดิม ถึงแม้เซียร์สเอาทิ้งตัวว่า ในหนังสือเล่มนี้คุณมิได้เลือกเขียนถึงครอบครัวคานเพราะเหตุว่าเป็นตัวแทนของครอบครัวอัฟกันทั่วๆไป แม้กระนั้นเลือกเพราะเหตุว่าครอบครัวนี้มีอะไรบางอย่างที่คุณติดใจเป็นพิเศษ ตัวของคานในสายตาเซียร์สตัดเป็น “ตำราเรียนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมอัฟกันที่เดินได้” ดังนั้้นในฐานะนักอ่านการอ่านซ้ำย่อมนับว่าเป็นจังหวะดีที่กำลังจะได้ตรวจสอบร่องรอยการปกครองของตาลีบันดูว่า 20 ปีผ่านไปอัฟกานิสถานจะหมุนกลับไปอยู่ที่จุดเดิมหรือไม่